รายงานผลการศึกษาดูงานโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์กำแพงแสน
จ.นครปฐม (โครงการ วมว) และการศึกษาดูงาน โรงเรียนพิบูลวิทยาลัย ศูนย์อาเซียนศึกษา จ.ลพบุรี 21-22 สิงหาคม 2555
*สัจจพงษ์ ญาตินิยม
วันอังคาร ที่ 21 สิงหาคม 2555
สืบเนื่องจาก
มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2555 ได้เห็นชอบให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ดำเนินโครงการสนับสนุนการจัดตั้งห้องเรียนวิทยาศาสตร์ในโรงเรียน
โดยการกำกับดูแลของมหาวิทยาลัย (โครงการ วมว.) ระยะที่ 2 ระยะเวลา
10 ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 - 2565) โดยมีเป้าหมายรวม
174 ห้องเรียน เพื่อสนับสนุนนักเรียนรวมทั้งสิ้น 5,220
คน กรอบวงเงินงบประมาณของโครงการ วมว.
ตลอดโครงการเป็นเงินรวมทั้งสิ้น 3,227 ล้านบาท
และโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม (ฝ่ายมัธยม) ของเราก็ได้รับการยืนยันจากกระทรวงวิทยาศาสตร์ให้ดำเนินการจัดตั้งห้องเรียนวิทยาศาสตร์ในโรงเรียน
เริ่มในปีการศึกษา 2556 นี้
เราจึงต้องไปศึกษาหาความรู้เพิ่มเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง
1. ประเด็นที่ได้รับจากโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์กำแพงแสน
คือ เราต้องรู้จุดเด่น จุดเน้นของเรา และเอาจุดเด่นจุดเน้น
มาเป็นจุดขายของโครงการในส่วนภูมิภาค เพราะเรามีคู่แข่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือถึง
3 ห้องเรียน และเก่าแก่กว่าเราแทบทั้งสิ้น
2. การปลูกฝังความเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่รักการค้นคว้าทดลอง
ตัวอาจารย์ผู้สอนเองต้องมีบุคลิกภาพอย่างนั้นก่อน เด็กจึงจะศรัทธาและนำอาจารย์มาเป็นต้นแบบได้
3. หลักการบริหารโครงการที่ดีต้องประสานงานอย่างจริงใจ
ไม่เกี่ยงงาน และผู้บริหารสูงสุดต้องรู้เห็นเป็นใจกับเรา เพื่อที่จะประสานทรัพยากรที่เราจำเป็นต้องใช้จากคณะอื่น
ๆในมหาวิทยาลัย หรือส่งต่อนักเรียนเข้าสู่คณะวิทยาศาสตร์
หรือคณะที่เกี่ยวข้องได้ด้วย
4. ผู้ประสานงานต้องลดทิฐิ อัตตา
เพื่อว่าเราจะมุ่งหน้าสู่เป้าหมายไปพร้อมกัน
5. การประชาสัมพันธ์ทั้งภายในองค์กรและต่อสาธารณชน
ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมาก ต้องมีการแถลงข่าวชัดเจน และการสร้างข่าวสารเชิงบวกเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
6. การดูแลนักเรียนมีหลักการที่ดี คือ
ดูแลนักเรียนแบบใกล้ชิดเมื่อพบปัญหาทั้งการเรียนและเรื่องส่วนตัวก็ไม่ละทิ้ง
เข้าไปจัดการตรงปัญหาทันที การแก้ปัญหาจึงไม่เหมือนการหว่านแห
แก้ไปทุกอย่างแต่ไม่ตรงปัญหาสักที
ด้วยศักยภาพที่เราเห็นทั้งภาพการร่วมแรงร่วมใจ
และหลักในการทำงานชัดเจน โครงการ วมว.ของ
โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์กำแพงแสน
จึงโดดเด่นเป็นที่จับตามองและถูกยกย่องให้เป็นโครงการ วมว.อันดับต้น ๆ ของประเทศอย่างไม่ต้องสงสัย
ในฐานะผู้ศึกษาดูงาน ข้อมูลเหล่านี้โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม (ฝ่ายมัธยม)
ของเราควรมีการรวบรวมและประชุมทำแผนการดำเนินงานให้ชัดเจนโดยยึดหลักที่ดีบางอย่างของกำแพงแสน
บวกหลักที่เยี่ยมยอดของสาธิต สารคามเราเข้าไปด้วยกันจะสมบูรณ์แบบมาก
วันพุธที่ 22 สิงหาคม 2555
อาเซียน หรือสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Association of Southeast Asian
Nations หรือ ASEAN) ได้ถูกก่อตั้งขึ้นภาใต้ปฏิญญากรุงเทพ (The Bangkok Declaration) เมื่อวันที่ 8สิงหาคม 2510 โดยมีสมาชิกผู้ร่วมก่อตั้ง 5 ประเทศ ได้แก่ ไทย
อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ ในเวลาต่อมาได้มีประเทศต่างๆ
สมัครเข้าเป็นสมาชิกเพิ่มเติม ได้แก่ บรูไน เวียดนาม ลาว พม่า และกังพูชา
ตามลำดับทำให้อาเซียนมีสมาชิกรวมทั้งหมด 10 ประเทศ
โดยยึด 3 เสาหลัก คือ
1.ประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน
2.ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
3.ประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน
Sathit Mahasarakham@Pibul School 2012 on PhotoPeach
จากการศึกษาดูงานศูนย์อาเซียนศึกษา ของโรงเรียนพิบูลวิทยาลัย พบว่า
1.
โรงเรียนเราไม่จำเป็นต้องมีศูนย์อาเซียน
เพราะ
1.1 ศูนย์อาเซียนเป็นนโยบายของ
สพฐ. มี 54 โรงเรียนทั่วประเทศ (Sister School จำนวน
30
โรง Buffer School จำนวน 24
โรง ) ใกล้ที่สุดอยู่โรงเรียนกัลยาณวัตรขอนแก่น ที่จังหวัดมหาสารคาม
ของ สอศ. มีศูนย์อาเซียนศึกษาที่วิทยาลัยเทคนิคมหาสารคาม เปิดศูนย์เมื่อวันที่ 14
มิ.ย. 55 นี้เอง
1.2 จากการที่เป็นนโยบายจึงมีงบประมาณส่วนหนึ่งมาสนันสนุน
และศักยภาพในการระดม
ทุนของโรงเรียนประจำจังหวัดจะมีมากกว่าโรงเรียนสาธิตแน่นอน
1.3
การสร้างศูนย์มีภาระตามมา เช่น การจัดการบุคลากร ภาระงานสอน
ภาระงานตามแผนงานประจำปี และจะส่งผลถึงจุดเน้นของโรงเรียนกับโครงการที่จำเป็นกว่า
(วมว.)
2. โรงเรียนเราควรดำเนินการดังนี้
2.1
ควรเชื่อมเนื้อหาอาเซียนแทรกในบทเรียนเป็นหลัก รับผิดชอบโดยกลุ่มสาระฯ ในการ
จัดทำแผนการสอนรายบุคคล
แผนปฏิบัติงานประจำปีของกลุ่มสาระ หรืออื่น ๆ ที่มีเนื้อหาอาเซียนสอดแทรก
โดยฝ่ายวิชาการ กำกับดูแลเป็นหลัก
2.2 มุมอาเซียนในห้องสมุดเป็นสิ่งจำเป็นมาก มี หนังสือ
และแผ่นพับ แหล่งสืบค้นทางอินเตอร์เน็ต ตุ๊กตาชุดประจำชาติ สื่อวีดิทัศน์ เอกสารข้อมูลสืบค้น สัญลักษณ์ที่สื่อถึงวัฒนธรรมของชาติต่างๆ
อาทิ ภาพแขวน และงานหัตถกรรมต่างๆ ไว้มุมใดมุมหนึ่งของห้องสมุด
2.3 กลุ่มสาระต่าง ๆ ควรมีจุดเน้นเฉพาะเพิ่มอีกเพื่อเป็นจุดขาย
เช่น กลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ ดำเนินการด้านหลักสูตรภาษาอาเซียน
ห้องเรียนเฉพาะทางด้านภาษา เทศกาลอาเซียน
เป็นต้น หรือกลุ่มสาระสังคมฯ อาจจัดกิจกรรม ค่ายวิชาการ ชุมนุม ที่เน้นให้ความรู้เกี่ยวกับ
3 เสาหลักอาเซียน เป็นต้น
2.4 หลักสำคัญคือทำทุกอย่างร่วมกัน
หรือแบ่งงานตามนโยบายให้ทำเท่า ๆ
กันทุกกลุ่มไม่ให้หนักที่ใครหรือกลุ่มสาระใดสาระหนึ่ง
ทำให้เนียนกับสิ่งที่เราทำมาแล้ว จะไม่เกิดภาพของงานที่ซ้อนทับ หรือ
งอกงานใหม่มากเรื่อย ๆ จนบดบังจุดเน้นของตัวเอง
3 comments:
อ่านแล้วเข้าใจเลยทันที อยากให้อาจารย์ที่ไม่ได้ไปได้มาอ่านจังเลย
ไปรอบนี้ได้ความรู้มากเลยค่ะ อ.โก้เขียนเข้าใจง่าย อยากให้โรงเรียนพาไปดูงานอีกค่ะ เพราะมีประโยชน์มากๆเลยนะคะ
exellent AjKo เตรียมตัวทำงบประมาณ วมว.ด้วยนะครับ อาทิตย์หน้าหารือกันหน่อย
อรุณ
Post a Comment