Wednesday, February 27, 2013

เยี่ยมชมสาธิตพัฒนา-TKPark


รายงานผลการศึกษาดูงาน
โรงเรียนสาธิตพัฒนา แขวงคลองสามวาตะวันออก เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร
และ สำนักงานอุทยานการเรียนรู้  TK Park เขตปทุมวัน  อาคารเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร
21-22 กุมภาพันธ์ 2556

* นายสัจจพงษ์  ญาตินิยม

งานจัดการความรู้ ฝ่ายแผนและประกันคุณภาพ ได้นำคณาจารย์และบุคลากร จำนวน 30 คน เข้าศึกษาดูงาน ตามโครงการศึกษาดูงานโรงเรียนต้นแบบ โดยในปีนี้ งานจัดการความรู้ ได้ตั้งเป้าหมายในการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมจากโรงเรียนสาธิตพัฒนา แขวงคลองสามวาตะวันอก เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร เพื่อวัตถุประสงค์ในการเปิดโลกทัศน์และแลกเปลี่ยนเรียนรู้วิธีปฏิบัติของโรงเรียนสามารถนำความรู้กลับมาใช้เป็นแรงบันดาลใจ พัฒนานักเรียนของโรงเรียนเราต่อไป และที่สถานที่หนึ่งคือ สำนักงานอุทยานการเรียนรู้  เขตปทุมวัน  อาคารเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร   หรือชื่อที่เราคุ้นชินคือ TK PARK ซึ่งเป็นห้องสมุดมีชีวิต ในห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัลเวิลด์ จุดประสงค์เพื่อนำมาปรับใช้กับห้องสมุดโรงเรียนของเราซึ่งรายละเอียดจะสรุปเป็นสถานที่ตามวันดังนี้

21 กุมภาพันธ์ 2556
          โรงเรียนสาธิตพัฒนาก่อตั้งขึ้นในปี 2549 เป็นโรงเรียนเอกชน เกิดขึ้นจากความร่วมมือของคณะคุรุศาสตร์จุฬาลงกรณ์ กับมูลนิธินวัตกรรมการศึกษา โดยจัดการศึกษาตามแนวสาธิตจุฬา แต่ให้ความสำคัญกับภาษาอังกฤษมากโดยเพิ่มเติมให้  ปัจจุบันอยู่ในการบริหารของบริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน)
          ทางด้านวิชาการ บริหารวิชาการโดยคณาจารย์เกษียณจากสาธิตจุฬาฯ จำนวนหนึ่งเป็ยคณะกรรมการบริหาร และทำการสอนในบางรายวิชา และพัฒนาบุคลากรใหม่อีก ปัจจุบันมี ครูทั้งสิ้น 132 คน ฝ่ายสนับสนุนอีก 48 คน บริหารจัดการนักเรียนทั้งสิ้น 1,108 คน ตั้งแต่ระดับอนุบาล ถึง มัธยมศึกษาปีที่ 6 จุดเด่นที่สำคัญคือ การนำหลักสูตร 4F มาใช้จัดการเรียนการสอน แนวคิดของหลักสูตร 4F คือ FUN คือเน้นให้นักเรียนรักที่จะมาโรงเรียน FIND นักเรียนค้นหาความสามารถ ความถนัดและความสนใจที่ตนเองมี จากไปก็ไป FOCUS เลือกในสิ่งที่ตนถนัดอย่างเจาะลึก และท้ายสุด FULFILLMENT นักเรียนจะเลือกเรียนในสิ่งที่เป็นไปตามเป้าหมายของผู้เรียนที่ได้ตั้งไว้ โดยโรงเรียนจะเตรียมความพร้อมด้านครูที่มีความชำนาญเฉพาะด้านในการเติมเต็มให้นักเรียนในรายวิชาที่นักเรียนมุ่งหวัง  เรียกโปรแกรมสุดท้ายนี้ว่า โปรแกรมเจียระไนรายบุคคล หรือหลักสูตรม.ปลาย รายบุคคล
          ทางด้านบริหารบุคคล โรงเรียนมีการพัฒนาทรัพยากรบุคคลอย่างต่อเนื่อง เน้นการปลูกฝังความเป็นครูผ่านตัวบุคคล รุ่นต่อรุ่น สอนครูรุ่นใหม่ให้เข้าในบทบาทการเป็นครูที่ดีผ่านการซึมซับจากต้นแบบ (คือ อาจารย์เก่า ๆ อาจารย์รุ่นพี่) ทำความเข้าใจก่อนเข้ามาเป็นครูที่นี่ เน้นให้ครูใหม่เกิดความภาคภูมิในในความเป็นครูและทำการสอนให้ดีที่สุด ไม่ให้ใครดูถูก รักและหวงแหนในวิชาชีพและจริงใจ มุ่งมั่นในการสอน จัดการอบรมเชิงรุก จุดประกาย ยุยง ส่งเสริม โดยมุ่งเป้าหมายเดียวกันคือสอนให้เก่ง พัฒนาตนเองตลอดเวลา ทำวิจัยระดับห้องและทุกระดับชั้น ออกข้อสอบให้เป็น โดยอบรมเติมความรู้อย่างสม่ำเสมอ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการคิดเชิงบวก ทั้งผู้อำนวยการและครูในโรงเรียน จะถูกปลูกฝังให้คิด เชิงบวก เพื่อลดความเครียดจากงานและสร้างกำลังใจในการทำงานได้อีกทางหนึ่ง ส่วนในเรื่องค่าครองชีพหรือเงินเดือน โรงเรียนสาธิตพัฒนา ให้เงินเดือนระดับ ปริญญาตรี เริ่มที่ 18,000 บาท บวกค่าเดินทาง อีก 3,000 บาท หากใครอยู่หอพักก็หักค่าเดินทางออก 1,000 บาท โดยภาพรวมก็น่าจะเป็นที่พึงพอใจของคณาจารย์ ที่สังเกตอีกประการหนึ่งคือโรงเรียนการจ้าง Out Source ในการจัดการเรียนการสอนนอกเหนือจากห้องเรียนปกติ เช่นวิชาพละศึกษา วิชาการ วิชาดนตรี โดยให้นักเรียนได้เรียนในสิ่งที่ตนถนัดนอกเหนือจากที่ได้รับจากครูประจำ
          กิจกรรมเสริมหลักสูตรของทางโรงเรียนมีหลากหลาย มีการทัศนศึกษาในแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ซึ่งมีมากในกรุงเทพฯ มีการปลูกข้าว ปลูกผักสวนครัวเพื่อให้นักเรียนได้เห็นของจริง ซึ่งน่าสนใจมาก
          สรุปในภาพรวมถือว่าโรงเรียนมีแนวทางบริหารจัดการศึกษาที่ดี พัฒนาต่อยอดจากสาธิตจุฬา และการไปดูงานครั้งนี้ถือว่าคุ้มค่า เหมือนไปดูทั้งสาธิตพัฒนาและสาธิตจุฬาในคราเดียวกัน และทั้งหมดทั้งมวลขับเคลื่อนได้อย่างรวดเร็วเพราะมีความพร้อมทั้งอาคารสถานที่ และทรัพยากรทางการเงิน ค่าเทอมโดยเฉลี่ยปีละ 100,000 บาท ต่อคนต่อปี ซึ่งก็สูงพอสมควรตามค่าครองชีพของชาวเมืองหลวง

22 กุมภาพันธ์ 2556
          อุทยานการเรียนรู้ TK Park เป็นองค์กรมหาชนภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ สำนักนายกรัฐมนตรี จัดตั้งตามนโยบายของรัฐบาลมรปี พ.ศ. 2548 โดยมีพันธกิจ ในการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านและการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ตลอดชีวิตของเยาวชนและประชาชน เพื่อสร้างสรรค์สังคมฐานความรู้ที่ประชาชนสามารถก้าวทันโลก (แผ่นพับแนะนำ : หน้าที่ 1)
          โดยภาพรวมแล้ว อุทยานการเรียนรู้ TK Park มีการจัดโซนออกเป็น 12 โซน ดังนี้ 1 ห้องสมุดมีชีวิต มีหนังสือมากมายทั้งภาษาไทยและต่างประเทศ ไม่เน้นหนังสืออ้างอิง หนังสือจึงมีความหลากหลายไม่น่าเบื่อ นอกจากนี้ยังมีสื่อการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้นเอง เช่น หนังสือโบราณผ่านโปรแกรมทัชสกรีน โซนที่ 2 มายด์รูม เป็นห้องที่มีหนังสือกลุ่มอาชีพต่าง ๆ ตามแนวทาง เศรษฐกิจสร้างสรรค์ เช่น สถาปัตยกรรม ศิลปกรรมแสดงเป็นต้น โซนที่ 3 ห้องเด็ก เป็นห้องสมุดที่เหมือนกับห้องเด็กเล่น มีสระอ่านหนังสือ คือเด็กสามารถนอนอ่านแบบสบาย ๆ (โดยเข้าใจว่าสาธิตพัฒนานำแนวคิดนี้ไปประยุกต์กับห้องสมุดของโรงเรียน) โซนที่ 4 ห้องเงียบ คือมุมที่ใช้สมาธิสูงในการอ่าน และการค้นคว้าหาข้อมูล  โซนที่ 5 มุมกาแฟ H&C คือ มุมบริการเครื่องดื่มและอาหารว่าง มุมนี้บุคลากรงานห้องสมุดให้ความสนใจสูงและพร้อมจะดำเนินการทันทีหลังกลับมาจากดูงาน โซนที่ 6 ห้องสมุดดนตรี มุมนี้มีสื่อสร้างสรรค์ทางดนตรีให้ได้เล่นได้ฟัง มีเปียโน หนังสือ เกี่ยวกับดนตรีที่น่าสนใจมาก โซนที่ 7 ห้องสมุดไอที เป็นพื้นที่ส่งเสริมทักษะทางด้านไอที มีหนังสือและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ให้บริการ โซนที่ 8 ศูนย์การเรียนรู้อเนกประสงค์ โซนนี้น่าสนใจมาก เป็นห้องโล่ง หลุมกลาง สามารถจัดการเรียนรู้เชิงสาระบันเทิงได้ (Edutainment) อาทิ เล่นละครเวที มินิคอนเสริต เป็นต้น โซนที่ 9 ลานสานฝัน เป็นพื้นที่เปิดกว้างให้กับทุกวัยในการนำเสนอความคิด กิจกรรมสร้างสรรค์ โดยทุก ๆ เดือน ทาง TK Park จะใช้ลานนี้จัดกิจกรรมเป็นตัวขับเคลื่อน จะมี ธีมงานต่อเดือน เช่น เดือนนี้จะเป็นนิสิตเกี่ยวกับดนตรีก็จัดเสวนาด้านดนตรี เป้นต้น โซนที่ 10 ห้องฉายภาพยนตร์ เอาไว้ฉายหนัง โซนที่ 11 ศูนย์อบรมไอที และโซนที่ 12 ห้องบันทึกเสียง
          จากข้อมูลข้างต้นก็น่าสนใจแล้วอยากจะมี TK Park  ใกล้ ๆ บ้านเลยทีเดียว แต่คงหมดโอกาสเพราะมหาสารคาม ตัดสินใจทำ Mk Park แล้ว แต่เราคงต้องกลับมาพัฒนาห้องสมุดของเรา โดยอาศัยความร่วมมือกับทาง TK Park ซึ่งเขามีหน่วยงานให้คำปรึกษาและเข้ามาร่วมพัฒนาห้องสมุดในโรงเรียนต่าง ๆ ให้เป็นห้องสมุดมีชีวิต โดยมีข้อแม้ 4 ข้อสำคัญ คือ คนพร้อม สถานที่พร้อม เงินพร้อม และนโยบายชัดเจน ก็สามารถเริ่มงานได้เลย




1 comment:

Mr.Tanikpon said...

เมื่ออ่านบทความนี้แล้วได้รับประโยชน์มาก จะนำความรู้ที่ได้ไปพัฒนาการสอนของตนเอง